เทคนิคการขับรถถอยหลัง สำหรับมือใหม่หัดขับ

ขอบคุณสำหรับที่มาน่ะ  http://www.checkraka.com



เทคนิคการขับรถถอยหลัง สำหรับมือใหม่หัดขับ

การบังคับทิศทางของรถเมื่อถอยหลัง

เมื่อขับรถถอยหลังนั้น ผู้ขับมักจะสับสนว่า การหักเลี้ยวพวงมาลัย จะไปในทิศทางใด ให้จำง่ายๆ เลยว่า เมื่อรถเคลื่อนที่ถอยหลังแล้ว ต้องการให้ส่วนท้ายไปทิศทางใด "ก็ให้หมุนพวงมาลัยไปทิศทางนั้น" เช่น ต้องการถอยไปทางซ้ายก็หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย (ทวนเข็มนาฬิกา) หรือ ต้องการไปทางขวาก็หมุนพวงมาลัยไปทางขวา (ตามเข็มนาฬิกา) เพียงเท่านี้ก็สามารถควบคุมทิศทางได้ดั่งใจแล้วครับ   



จากรูปภาพจะสังเกตว่ารถยนต์เมื่อขับถอยหลังนั้น อาจดูเหมือนกลับทิศทาง แต่เมื่อนั่งตำแหน่งคนขับและหมุนพวงมาลัยนั้น แทบไม่มีอะไรกลับทิศทางเลย เมื่อต้องการถอยไปทางซ้ายก็หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย เมื่อต้องการถอยไปทางขวาก็หมุนไปทางขวาเท่านั้นครับ โดยให้ยึดถือด้านหน้าของรถเป็นหลัก 
มองกระจกด้านข้างของรถ
กระจกมองข้างนอกจากเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับรถไปข้างหน้าเพื่อมองรถด้านข้างแล้ว อีกหน้าที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ใช้ในการช่วยมองด้านข้างตัวรถขณะถอยหลัง เพราะเพียงแค่การหันหลังไปดูอาจจำกัดการมองเห็นทั้งสองข้างของตัวรถ และวัตถุที่ใกล้ๆ กับรถ จึงอาจเกิดการเฉี่ยวชนได้ 




หลักการมองกระจกข้างขณะถอยหลังจะคล้ายๆ กับการมองในขณะขับไปข้างหน้า เพียงแต่กลับทิศทางวิ่งเท่านั้น โดยคนขับควรจะหันไปมองด้านหลังเพื่อมองดูพื้นที่ระยะทางกว้างๆ เพื่อกะระยะถอยและสลับกับการมองกระจกมองข้าง เพื่อรักษาให้รถอยู่ในทิศทางที่ต้องการจะถอย และไม่ชิดข้างใดข้างหนึ่งจะเกินไป หรือหากฝึกฝนในการมองกระจกมองหลังไปด้วยก็ยิ่งดีครับ

การจอดรถขนาน

การจอดรถแบบขนาน การจอดริมถนนหรือว่าริมฟุตบาธ นับเป็นการจอดรถที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย! เอ๊ะยังไง.. และจะเกี่ยวกับการถอยรถตรงไหน? ซึ่งการจอดรถลักษณะนี้มี 2 รูปแบบเหตุการณ์หลักๆ คือ
1. การจอดในทางโล่ง ไม่มีรถคันอื่นจอดอยู่  
จอดได้เลยไม่มีรถระหว่างหน้าหรือหลัง หากริมทางไม่มีรถจอดอยู่ หรือ มีจอดเพียงด้านหน้า นับว่าสามารถเบี่ยงรถเข้าซ้ายเพื่อเข้าจอดได้เลย โดยที่เผื่อระยะรถคันหน้าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และค่อยๆ บังคับพวงมาลัยและตัวรถให้เข้าชิดขอบทางมากที่สุด หลังจากนั้นลงมาดูระยะห่างระหว่างล้อรถและขอบทางไม่ควรเกิน 4 นิ้ว (โดยประมาณ) หากยังมีความห่างเกินไปก็ค่อยๆ ขยับรถโดยวิธีง่ายสุดคือ ถอยหลังหมุนพวงมาลัยไปทิศทางซ้ายเล็กน้อยให้ส่วนท้ายชิดขอบทางมากขึ้น และจากนั้นก็คืนพวงมาลัยมาทางขวาตั้งรถให้ตรงขนานกับขอบทาง เมื่อได้แล้ว ก็เดินหน้าให้ได้จุดจอดตามต้องการ  
2. การจอดแบบมีรถอยู่ระหว่างหน้าและหลัง - อาจแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ 
2.1 ระยะระหว่างรถทั้ง 2 คันนั้นห่างมากๆ ก็สามารถเบี่ยงหัวรถเข้าไปและก็ทำการแต่งให้รถตรงขนานกับขอบทางได้เลย (หรือทำตามแบบการจอดรถโล่ง)
2.2 ระยะห่างระหว่างคันหน้าและหลังแคบ ให้เดินหน้าเลยจุดช่องที่จะจอด หรือรถยนต์คันด้านหน้าช่องที่จอดออกไปอีกอย่างช้าๆ โดยให้รถของเรานั้นชิดฝั่งซ้ายหรือฝั่งที่ต้องการจอดประมาณ 1-2 ไม้บรรทัด ขับเลยจนส่วนของกระจกมองข้างรถเรานั้นอยู่บริเวณกึ่งกลางของรถยนต์คันด้านหน้าจึงหยุดรถ และถอยหลังโดยค่อยๆ หมุนพวงมาลัยไปทิศทางที่ต้องการจอดอย่างช้าๆ ให้ความเร็วสัมพันธ์กับองศาการเลี้ยวรถ
จากนั้นเมื่อส่วนของกระจกมองข้างรถเราถึงบริเวณส่วนท้ายของรถที่จอดด้านหน้าแล้ว ให้คืนพวงมาลัยล้อตรงและค่อยๆ เคลื่อนรถถอยหลังต่อไปอีก พร้อมกับมองกระจกด้านข้างไปด้วยเพื่อมองขอบทางว่าชิดเกินไปหรือไม่ (ถึงตรงนี้เพื่อความชัวร์สามารถปรับมุมมองกระจกให้ต่ำลงได้)
หลังจากนั้นเมื่อส่วนหน้ารถเราพ้นส่วนท้ายรถคันด้านหน้าแล้วก็ให้หมุนพวงมาลัยไปฝั่งตรงข้ามกันเพื่อให้รถตั้งลำตรง ซึ่งการจอดแบบนี้ต้องฝึกฝนและลงจากรถเพื่อดูว่าจอดชิดหรือเอียงเกินไปหรือไม่ หลังจากนั้นก็ขยับตั้งลำด้วยการเดินหน้าอีกครั้งเพื่อให้รถอยู่ระยะกึ่งกลางช่องจอด และเพื่อเว้นช่องว่างให้รถคันอื่นสามารถออกได้ด้วย 

การถอยรถเข้าช่องจอด

การถอยรถเข้าช่องจอด โดยทั่วไปลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ มักเป็นที่แคบๆ ซึ่งอาจทำให้การจอดโดยเอาหน้ารถเข้านั้นยากต่อการตั้งลำให้ตรงได้ และเมื่อต้องการออกจากช่องจอดมักจะถอยออกได้ยากกว่า จึงนิยมในการถอยรถเข้าจอด เพื่อเวลาออกจะได้ง่ายขึ้น มาดูว่าต้องทำอย่างไร
เมื่อถึงช่องที่ต้องการจอดรถ ให้ขับเลยรถคันถัดไปอีกเล็กน้อยอย่างช้าๆ โดยให้ตัวรถชิดด้านที่ต้องการจอดราวๆ 1-2 ไม้บรรทัดจนรถเราเลยช่องจอดมาประมาณครึ่งคันแล้วให้เลี้ยวรถไปทางด้านตรงข้ามกับช่องจอด ซึ่งขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ถนนว่าจะกว้างหรือแคบเพียงใด หากมีพื้นที่มากๆ ก็สามารถเลี้ยวรถให้รถไปด้านตรงข้ามแบบเกือบตั้งตรง หรือสามารถที่จะเลี้ยวรถเมื่อถึงช่องจอดไปด้านตรงข้ามได้เลย โดยให้อยู่ในระนาบเดียวกับช่องรถที่จะถอย

อุ๊ย... เจอช่องจอดแล้วเรา

ค่อยๆ ขับเลยไปช้าๆ

จนรถเริ่มอยู่กลางช่องจอด

ค่อยๆ เลี้ยวรถไปทิศทางตรงข้ามที่จะจอด
แต่หากพื้นที่ไม่เพียงพอก็จะต้องขับรถเลยช่องจอดไปสักเล็กน้อย และเลี้ยวรถไปทางด้านตรงข้ามในลักษณะเอียงๆ โดยกะระยะให้ส่วนท้ายรถนั้นผู้ขับมองเห็นระยะห่างระหว่างรถที่จอดอยู่แล้วทั้งฝั่งที่ต้องการจอดจากการมองกระจกมองข้าง

ถอยหลังโดยการหันไปมองด้านหลังและสลับกับการกระจกมองข้าง
จากนั้นก็ค่อยๆ ถอยหลังโดยบังคับทิศทางให้ส่วนท้ายรถเข้าช่องจอดและคอยหมุนพวงมาลัยในทิศทางที่ต้องการเลี้ยว (ถอยซ้ายหมุนทวนเข็มฯ หรือถอยขวา-หมุนตามเข็มฯ) พร้อมกับหันมองดูด้านหลังและกระจกมองข้างสลับกันไปเพื่อให้ผู้ขับเห็นว่ารถเอียงชิดด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไปหรือไม่ 

หมุนพวงมาลัยไปทิศทางที่จะถอย

คอยมองด้านข้างรถเอาไว้ด้วย

มองฝั่งขวาอีกทีอาจเห็นเหมือนจะเลยไปชนรถข้างๆ แต่ไม่ต้องกลัวเพราะเราหมุนพวงมาลัยไปทางที่จอดถอยแล้ว

ค่อยๆ ถอยมาโดยมาให้รอบคอบที่สุด
เมื่อรถเข้าช่องจอดแล้ว อาจจำเป็นต้องเดินหน้าขยับรถให้ตั้งเป็นแนวตรงขนาบข้างกับรถที่จอดทั้งสองข้าง และถอยจนเข้าช่องจอดอย่างปลอดภัย ทั้งนี้การเทียบระดับความเอียงจากรถคันด้านข้างอาจไม่ตรงเสมอไป เพราะรถที่จอดติดๆ กันก็อาจจะจอดไม่ตรงหรือเอียงมากหรือน้อยเกินไป ดังนั้นเมื่อจอดเสร็จแล้วให้ลงมาดูว่าอยู่ในช่องจอดถูกต้องและกึ่งกลางหรือไม่ 

หากจอดเอียงก็เดินหน้าตั้งลำใหม่และถอยจอดอีกครั้ง
อีกวิธีที่จะช่วยให้จอดรถง่ายขึ้นเมื่อถอยเข้าช่องจอดได้แล้วก็คือ หากมีรถจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ดูว่ารถของเรานั้นตรงกับตำแหน่งของรถที่จอดในช่องฝั่งตรงข้ามหรือไม่ จให้ช่วยจอดได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ
ถึงแม้จะมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการถอยจอดแล้ว แต่สำหรับนักขับมือใหม่ก็ควรฝึกฝนบ่อยๆ หัดจอดในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะที่คิดว่ายากสุดๆ เพื่อเป็นการฝึกฝนการควบคุมทิศทาง การกะระยะ การเคลื่อนที่ของรถอย่างเหมาะสม และปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น หากทำได้ตามนี้รับรองว่าจะไม่มีใครเรียกคุณว่ามือใหม่หัดขับอีกต่อไป... 

ถ้าช่องกว้างขนาดนี้สบายเลย
หมายเหตุ ลักษณะการถอยจอดรถหรือเหตุการณ์จริงๆ อาจไม่ตรงกับคำแนะนำในบทความนี้ ควรพิจารณาตามความสะดวกและเหมาะสมของแต่ละบุคคล และสถานที่

ความคิดเห็น